ชื่อหลักสูตร ศิลปะการพูดเพื่อพัฒนางานขาย
หลักการและเหตุผล
ศิลปะการพูดเพื่อพัฒนางานขาย มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีศิลปะการพูด รู้หลักพูด รู้เทคนิคการพูด และรู้จักสถานการณ์พูด เพื่อเปิดใจ เปิดโอกาสในการรับฟังคุณสมบัติของสินค้า สร้างความน่าสนใจ สร้างความน่าประทับใจให้เกิดแก่ผู้พูดเอง อีกทั้ง งานขายมีความเกี่ยวพันกับการพูดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น พูดหน้าเวทีเพื่อขายสินค้า พูดเพื่อขายธุรกิจ พูดเพื่อปลุกใจ ปลุกระดม เป็นต้น ดังนั้น หากงานขายขาดการพัฒนาทักษะฝีมือในการพูดเสียแล้ว ย่อมหมายถึง การขาดศาสตราวุธในการพิชิตใจลูกค้า ขาดการพัฒนายอดขาย และตกม้าตายตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้การพูดของนักขายเกิดประสิทธิภาพจนนำไปสู่ประสิทธิผล จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนานักขายสู่การเป็นนักพูดที่มีคุณภาพ คุณค่า และคุณลักษณะที่โดดเด่น
ในแต่ละวันมนุษย์สื่อสารกันโดยใช้สัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งปัจจัยสี่ การตกลงความหมายร่วมกันของผู้คนในแต่ละสังคมผ่านสัญลักษณ์ เรียกสัญลักษณ์เหล่านี้ว่า “ภาษา” ซึ่งมีทั้งวัจนภาษาและอวัจนภาษา มนุษย์ใช้ภาษาผ่านการมีปฏิสัมพันธ์แบบต่างๆ เพื่อถ่ายทอดความคิด อารมณ์ ความรู้สึกและความต้องการการสื่อสารของมนุษย์มีความสัมพันธ์กับวัฒนธรรมหรือวิถีชีวิต เนื่องจากแต่ละสังคมมีวิถีชีวิตที่ต่างกันดังนั้นมนุษย์ย่อมมีวิธีการคิด มโนทัศน์ในเรื่องต่างๆ รวมถึงการให้ความหมายของสรรพสิ่งที่อยู่รอบตัวที่เหมือนกันและแตกต่างกัน จึงทำให้การสื่อสารของผู้คนในสังคมมีความเหมือนกันและแตกต่างกันด้วย อย่างไรก็ตาม การสื่อสารจะประสบความสำเร็จและบรรลุวัตถุประสงค์ได้ ผู้สื่อสารจะต้องเข้าใจความหมายของสารที่สื่อตรงกันการสื่อสารที่ประสบความสำเร็จจะต้องมีภาษาเป็นองค์ประกอบหนึ่งอยู่ภายใต้ข้อความหรือเนื้อหาของสาร ความคิดที่กลั่นออกมาเป็นเรื่องราว ความคิดนั้นไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้ถ้าไม่มีภาษาในการสื่อสารนั้นภาษา คือ พาหะให้เนื้อหาของสารเกาะเกี่ยวจากผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร ผู้ผลิตภาษา คือ ผู้ส่งสาร ภาษาที่ออกมาจะดีหรือไม่ดีอยู่ที่ทักษะในการสื่อสารของผู้ส่งสาร แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้รับสารด้วย
มนุษย์จำเป็นต้องสื่อสารกัน เพื่อจะได้เข้าใจความรู้สึกนึกคิดและทัศนคติซึ่งกันและกัน มนุษย์ต้องการที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความรู้ ประสบการณ์ ความเชื่อ ความสนใจ ความต้องการ จุดมุ่งหมาย และค่านิยมกับคนอื่น จึงมีความจำเป็นที่มนุษย์ต้องมีการสื่อสารกัน และต้องเรียนรู้วิธีการสื่อสารและการเพิ่มพูนทักษะการสื่อสารซึ่งจะช่วยให้เข้าใจตัวเองและผู้อื่นมากยิ่งขึ้น จนสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ เพราะการสื่อสารเป็นวิธีการเดียวเท่านั้นที่จะเข้าใจผู้อื่นได้ และมีความสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน รวมถึงการสื่อสารทางธุรกิจด้วย
ความหมายของการสื่อสารว่า การสื่อสาร คือ การส่งผ่านข้อความโดยผู้ส่งสารเข้ารหัสข้อความนั้นด้วยวิธีต่างๆ ผ่านภาษาในรูปแบบการสื่อสารแบบต่างๆ เช่น การพูด อีเมล จดหมาย วิทยุโทรศัพท์ โดยมีผู้รับสารเป็นผู้ถอดรหัสข้อความนั้น การสื่อสารเป็นการแสดงปฏิสัมพันธ์ผ่านข้อความที่ช่วยให้ผู้คนมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น โดยเป็นการแลกเปลี่ยนความหมายระหว่างกัน ทั้งนี้ การสื่อสารยังเป็นการแลกเปลี่ยนความหมายผ่านข้อมูลความคิด และความรู้สึกในการดำเนินการธุรกิจ การสื่อสารได้กลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากเนื่องจากการสื่อสารในทางธุรกิจเป็นการสื่อสารกับสาธารณชนจำนวนมาก ปกติองค์กรธุรกิจต่างๆ มักจะต้องเผชิญและยอมรับกับความกดดันที่เป็นความขัดแย้งจากแหล่งต่างๆ องค์กรธุรกิจมีการให้ความสำคัญกับการวางแผนนโยบายในการสื่อสารกับระดับล่างและพยายามปรับปรุงวิธีการสื่อสาร ในทางกลับกันตัวพนักงานเองก็ค่อนข้างจะสนใจกับเรื่องที่ฝ่ายจัดการสื่อสารด้วย ทั้งนี้ การสื่อสารจากล่างขึ้นบนภายในองค์กรมีการปรับปรุงเป็นอย่างมาก ฝ่ายจัดการเองก็แสดงออกอย่างเด่นชัดในการรับฟังจากฝ่ายจัดการระดับล่าง และเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในการแสดงออกของพนักงานระดับล่าง การเปลี่ยนแปลงนี้เน้นเรื่องของรูปแบบการสื่อสารอย่างเด่นชัดสิ่งที่เป็นตัวชี้ คือ การตัดสินใจที่สำคัญๆ มักจะทำเป็นกลุ่มมากกว่าการตัดสินใจคนเดียว เช่น การสัมภาษณ์บุคคลเข้าทำงาน มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเลือกคนเข้าทำงาน นอกจากนี้ การสื่อสารกับภายนอกองค์กร องค์กรเริ่มตระหนักถึงการส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร องค์กรก็เน้นในเรื่องของการรับฟังสาธารณชนโดยเฉพาะในเรื่องของความไว้วางใจ และการให้ผู้บริหารได้พูดกับสาธารณชน
วัตถุประสงค์
1.เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเรียนรู้และฝึกปฏิบัติเทคนิคการพูดเพื่อขายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเรียนรู้คุณลักษณะของนักขายมืออาชีพ
3.เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีแนวทางในการพัฒนาประสิทธิภาพการขายด้วยตนเอง
รายละเอียดหลักสูตร
หลักสูตรศิลปะการพูดเพื่อพัฒนางานขาย มุ่งเน้นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับศิลปะการพูดเพื่อการขาย ไม่เน้นการบรรยาย เน้นสร้างความเข้าใจจากกระบวนการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ
1.การบรรยาย เรื่อง ฉีกกฎการพูด
เพื่อสร้างความเข้าใจ แนะนำเทคนิคการพูดต่อที่ชุมชนได้อย่างถูกต้องตามแบบแผน มี ระบบการพูด เทคนิคการพูดเบื้องต้น และสร้างความเข้าใจในการพูดให้แก่ผู้เข้ารับการอบรม
2.การบรรยาย เรื่อง บุคลิกภาพของนักพูด
เพื่อเสริมสร้างแนวทางการพัฒนาตนเองด้านการพัฒนาบุคลิกภาพ การพัฒนาบุคลิกภาพเพื่อเสริมศักยภาพการพูด สร้างความมั่นใจในการขาย
3.การบรรยาย เรื่อง พูดอย่างไร ไม่ให้ประหม่า
เพื่อแนะแนวทางการพัฒนาตนเองด้านการพูด และเทคนิคการระงับความประหม่าในการพูดต่อที่ชุมชน
4.การฝึกปฏิบัติ
เพื่อฝึกฝนสร้างทักษะ ความชำนาญและฝึกปฏิบัติจริงถูกต้องตามหลักของการพูดโดยมุ่งเน้นที่เนื้อหาง่าย ผู้เข้ารับการอบรมสามารถฝึกฝนได้