ที่มาของชื่อ
“ผมมีปาก ตั้งแต่เป็นอสุจิแล้วครับ
เพราะคุณแม่นงเยาว์ของผมทำหมัน แต่ผมดันอยากจะเกิด
และนับเป็นโชคดีของผมที่แม่ทำหมันแบบใช้ไหมผูก
ผมเลยกัดไหมซะขาดกระจุย
เกิดมาเป็นลูกคนสุดท้ายของพ่อสมเจตน์ได้”
สุดปฐพี เป็นชื่อที่พ่อตั้งให้ตั้งแต่เกิด หลายคนเมื่อได้ยินชื่อนี้
มักจะต้องร้องว่า โอ้โห! หรือคิดได้ไง ใครเป็นคนตั้ง?
อาจารย์เอ๋เป็นลูกคนสุดท้ายของครอบครัวเวียงสี
มีพ่อสมเจตน์ คนจังหวัดแพร่
อดีตพนักงานรัฐวิสาหกิจ เป็นหัวหน้าครอบครัว
และแม่นงเยาว์ ชาวนครสวรรค์ อาชีพผู้นำของพ่อ
มีพี่จำนวน 3 คือ สุดเขตร์ สุดรักและสุดแดน
นี่เองจึงเป็นเหตุให้ผมมีชื่อว่า สุดปฐพี
ทุกความสำเร็จไม่ได้เกิดจากการพูด ทุกความสำเร็จเกิดจากการลงมือทำ ผมเชื่อและปฏิบัติแบบนั้นเสมอมา นั้นเลยทำให้ผมเข้าใจตัวเอง ค้นหาตนเองจนเป็นที่มาของการลาออกจากราชการ เพื่อเดินตามความต้องการของชีวิตตนเอง และมีความสุขกับการแบ่งปันความรู้ ทักษะแก่ผู้คน
เติบโตมาจากภาคเอกชน
ผมเติบโตมาจากภาคเอกชน มีโอกาสทำงานใกล้ชิดกับเจ้าของบริษัทส่งออก เติบโตอย่างรวดเร็วในบริษัทค้าปลีกอันดับที่ 1 ของประเทศไทย และบริหารบริษัทเอกชนอีก 2 แห่ง
ลุยธุรกิจของตนเอง
ล้มลุกคลุกคลานกับลุยธุรกิจเสื้อผ้าและอาหารของตัวเองหลายปี
นักวิชาการที่ไม่เหมือนใคร
การเป็นนักวิชาการที่ไม่เหมือนใครเพราะผมเติบโตมาจากการปฏิบัติ ไม่ได้เติบโตมาจากเอกสารตำราโดยตรง ผมเลยมีความคิดกลับทางกับนักวิชาการทั่วไป
ประสบการณ์ คือ การลงมือทำ
อาจารย์เอ๋รับงานบรรยายเพียง 12 วัน เพื่อให้มีเวลาในการพัฒนาตนเอง พัฒนางาน เพราะหากรับแต่งานบรรยาย จะทำให้หลงวนอยู่แต่ข้อมูลเดิมๆ ทั้งๆ ที่โลกหมุนรอบตนเองทุกวัน
ฟังคิดทำ
ปัจจุบัน อาจารย์เอ๋ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ฟังคิดทำ จำกัด บริษัทฝึกอบรมเล็กๆ ที่ก่อตั้งมาเพื่อการเรียนรู้ที่มิใช่การเรียนเพื่อรู้เท่านั้น แต่ยังมุ่งหวังสร้างพลังปัญญาให้คนในสังคมได้ตระหนักรู้เท่าทันตนเอง
รัก
มุ่งเน้นใ่ห้ผู้เรียนรักตนเอง เมตตาผู้อื่น
รักในงานที่ทำ รักในโอกาสที่มี
รักที่จะพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
เรียน
มุ่งหมายใ่ห้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้แจ้ง
ผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบพุทธิปัญญา
สนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ เข้าใจง่าย นำไปใช้ได้จริง
รู้
มุ่งมั่นให้ผู้เรียนรู้ถึงประโยชน์ขององค์ความรู้
สามารถนำองค์ความรู้ไปปรับประยุกต์ใช้ได้
ทั้งในชีวิตการทำงาน ชีวิตครอบครัวและตนเอง